Check-in Time

ทำให้ถูกต้อง อาจไม่ถูกใจ

การที่ผู้โดยสารมาเช็คอินไม่ทันนั้นมีให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ และบางเคสก็เกิดการดราม่าตามโซเชียลเน็ตเวิร์คกลายเป็น talk of the town

แน่นอนครับ การเช็คอินไม่ทันนั้นย่อมเสียความรู้สึก เสียอารมณ์หรือหงุดหงิด

หรือบางคนก็อาจจะเกิดการควบคุมตนเองไม่ได้ โวยวายด้วยความโมโหที่ตัวเองเสียโอกาสในการเดินทางหรือเสียค่าตั๋วเดินทางไปฟรี

ในเมื่อกติกามีไว้อยู่แล้วผู้ซื้อตั๋วหรือใช้บริการควรต้องรับรู้และให้ความใส่ใจกับสิทธิที่ตัวเองจะต้องใส่ใจดูแลเพื่อรักษาสิทธินั้นไว้

ในส่วนของสายการบินนั้นมีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบมากกว่านั่นคือ การดูแลคนที่ทำถูกต้องตามกติกา

รวมทั้งเป็นการบริหารจัดการต้นทุนในการเดินทางและบริหารค่าเสียโอกาสที่อาจจะเกิดขึ้นหากการรอคนที่มาเช็คอินสายทำให้สายการบินเกิดการดีเลย์

การดีเลย์นั้น อย่ามองแค่เพียงว่า ยังมีเวลาอีกตั้ง 40 นาที 30 นาที 20 นาที 10 นาที หรือแม้กระทั่งอีก 5 นาที

ทุก ๆ นาทีนั้นมีความหมายมากสำหรับการที่จะทำให้การเดินทางไปถึงที่หมายได้อย่างตรงเวลาและราบรื่น

ผมเคยเขียนไว้นานแล้วขอนำมาเขียนเล่าสู่กันฟังใหม่อีกครั้งครับว่า

การบินนั้นเป็นการจัดการด้านเวลาโดยที่ไม่ใช่เครื่องบินลำเดียวหรือเที่ยวเดียวจะไปลอยอยู่บนฟ้า

หรือเครื่องบินลำเดียวที่จะได้ดันถอยหลัง

หรือเครื่องบินของเราจะได้วิ่งขึ้นจากสนามบินได้ทันทีที่พร้อมออกเดินทาง

การบินนั้นมีปัจจัยร่วมมากมายในการที่จะทำให้การเดินทางไปถึงจุดหมายได้ตรงเวลาหรือไม่

บางทีดันถอยหลังช้าไปเพียง 1 นาที หรือ5 นาที แต่อาจจะส่งผลให้เกิดความล่าช้าได้ 20-30 นาที หรืออาจกลายเป็นชั่วโมง ๆ ก็ได้

ตัวอย่างเช่น

-การดันถอยหลัง (Pushback) อาจมีเครื่องบินจอดบริเวณเดียวกันพร้อมที่จะดันถอยหลังในเวลาใกล้เคียงกัน

-การเคลื่อนตัวไปตามทางขับ (Taxiing) เครื่องบินลำอื่นใช้เส้นทางเดียวกันอยู่ เค้าอาจจะดันถอยหลังออกมาจากบริเวณอื่น แต่ใช้เส้นทางเพื่อไปหัวสนามเส้นทางเดียวกัน โดยเฉพาะสนามบินดอนเมือง Taxiway congestion เป็นเรื่องปกติมาก เพราะทั้งเครื่องบินที่เตรียมไปวิ่งขึ้นและเครื่องบินที่เพิ่งร่อนลงสนามและเตรียมเข้าจอด จะใช้เส้นทาง (taxiway) เดียวกัน

-การรอวิ่งขึ้นจากสนามบิน (Takeoff) นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีเครื่องบินก่อนหน้ากี่ลำ ซึ่งการดันถอยหลังช้ากว่าเครื่องที่จอดใกล้กัน แน่นอนที่สุดคือ เค้าต้องได้วิ่งขึ้นก่อน แต่หลังจากเค้าวิ่งขึ้นไปแล้วต้องรอห่างกัน 2-3 นาที และเราอาจจะยังไม่ได้วิ่งขึ้นตามหลังทันที่เพราะอาจจะต้องรอเครื่องบินที่กำลังร่อนลงสู่สนามอีก 2-3 ลำก่อนที่จะได้วิ่งขึ้น หากเป็นกรณีแบบนี้ ก็จะเสียเวลาไปอีกประมาณ 10-15 นาที

-การเลือกหรือได้ระดับความสูงในการบิน (Cruising Altitude) ประเด็นนี้แน่นอนว่า เครื่องบินที่ได้วิ่งขึ้นก่อนย่อมได้มีโอกาสเลือกระดับความสูงที่เหมาะสมก่อน คนมาทีหลังต้องรอของเหลือ แล้วบางทีการเดินทางไปสนามบินใหญ่ ๆ อย่าง ภูเก็ต เชียงใหม่ ไม่ใช่แค่เครื่องบินจากดอนเมืองด้วยกันเท่านั้นที่บินไปด้วยกัน ยังมีเครื่องบินที่บินขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินนานาชาติอื่น ๆ ที่มุ่งตรงไปภูเก็ตหรือเชียงใหม่พร้อม ๆ กันด้วย

-การได้ลำดับที่ในการร่อนลงสู่สนามที่สนามบินปลายทาง (Approach and Landing) ก็ขึ้นอยู่กับว่ามีเครื่องบินไปที่สนามบินเดียวกับเราพร้อมกันกี่ลำ ใครถึงจุด checkpoint ก่อน ก็ได้สิทธิลงก่อน ลำหลังก็ต้องรอระยะห่าง ถ้าเป็นสนามบินอย่างเชียงใหม่หรือภูเก็ต อาจไม่มีปัญหาเรื่องการ landing ต่อ ๆ กัน แต่ถ้าเป็นบางสนามบินที่เครื่องบินต้องไปกลับตัวที่ปลายรันเวย์ แบบนี้จะต้องเสียเวลาต่อคิวไปอีกไม่น้อยกว่า 5 นาทีแน่นอน

-การลงสู่สนามแล้วจะได้ที่จอดหรือหลุมจอดตามที่ได้จัดการจองหรือกำหนดไว้ตามตารางบินหรือไม่

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่อาจทำให้มีผลกระทบต่อตารางการบิน และไม่ใช่แค่เพียงเที่ยวเดียวหรือลำเดียว

ผลกระทบนั้นอาจเป็น domino เป็นลูกโซ่ต่อเนื่องที่อาจจะกระทบต่อเนื่องไปตลอดทั้งวันหรือข้ามวัน

นี่ยังไม่นับรวมเรื่องของจังหวะและโอกาสในเรื่องของสภาพอากาศในการบินที่เป็นอีกตัวแปรสำคัญอันหนึ่งในเรื่องของความไม่แน่นอน

โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมแบบนี้

การบินจึงเป็นเรื่องของ “ความสำคัญในการบริหารจัดการเวลา”

เพราะการเสียเวลา คือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น หากไม่สามารถจัดการบริหารมันได้อย่างดีพอ

ข้อกำหนดเรื่องของระยะเวลาในการเช็คอินเป็นเรื่องของการบริหารจัดการที่เผื่อเวลาเอาไว้ให้ผู้โดยสารสามารถไปถึงเครื่องบินโดยผ่านขั้นตอนการตรวจค้นกระเป๋า (Security Check) เดินไปที่หน้าประตูขึ้นเครื่องบินหรือหน้าประตูที่จะต้องขึ้นรถบัสเพื่อขับต่อไปที่หลุมจอดเครื่องบินอีกที

ลองนึกภาพว่า หากผู้โดยสารมาเช็คอินช้า สายการบินก็รับไปด้วยความไม่อยากให้ถูกโวย เสร็จแล้วผู้โดยสารก็ต้องรีบร้อน กุลีกุจอ เร่งรีบ หรืออาจถึงขั้นลัดคิวแทรกคิว กับผู้โดยสารของเที่ยวบินอื่น เพื่อผ่านจุด x-ray กระเป๋า

หากการ x-ray กระเป๋าพบสิ่งของห้ามนำขึ้นเครื่องและถูกตรวจค้นเพิ่มเติม ก็ต้องเสียเวลาเพิ่มขึ้นอีกหน่อย พอผ่านการตรวจเสร็จ ก็ต้องรีบวิ่ง จะหกล้ม หกลุก ลูกหลานแข้งขาหักขึ้นมา ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

แล้วสุดท้ายไปถึงหน้าประตูเครื่องบินไม่ทันอีก จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ยิ่งถ้าเป็นเคสคนสูงอายุหรือมีโรคประจำตัว การวิ่งกระหืดกระหอบ แล้วไปหัวใจวายอยู่สนามบินหรือบนเครื่องบิน

กรณีแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้นะครับ ไม่ควรมองข้ามไปเฉย ๆเวลาในการปิดประตูทางเข้าเครื่องบิน (boarding gate close) ก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่าแค่เพียงเดินขึ้นเครื่องบินแล้ว จะสามารถปิดประตูเครื่องบินแล้วดันถอยหลังได้ทันที

ยังมีเรื่องของการตรวจสอบและดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ห้องโดยสารอยู่ในสภาพเรียบร้อยพร้อมที่จะออกเดินทาง

รวมทั้งการคำนวณน้ำหนักเครื่องบิน (weight balance) เพื่อบันทึกใน Loadsheet ที่เป็นเอกสารสำคัญเพื่อแสดงถึงการตรวจสอบและพิจารณาอย่างรอบคอบในการจัดการด้าน performance การปิดตู้เก็บสัมภาระ

หรือการนำสัมภาระของผู้โดยสารที่มาช้าขึ้นเครื่อง ฯลฯ หากไม่เผื่อเวลาเอาไว้สุดท้ายก็จะเกิดความล่าช้าแบบต่อเนื่องไป

เงื่อนไขด้านเวลานั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย

การที่เจ้าหน้าที่อะลุ่มอล่วยก็จะสร้างปัญหาในประเด็นที่ว่า ทำไมคนนี้ได้ คนนั้นไม่ได้ ครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งก่อนได้

จะทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามบรรทัดฐานที่ถูกต้องได้

การตรงต่อเวลานั้นนอกจากเป็นการเคารพต่อตัวเองแล้ว ยังเป็นการให้เกียรติต่อผู้ร่วมเดินทางท่านอื่น ๆ ที่ตรงต่อเวลาด้วยสุดท้ายแล้วก็อยากจะแนะนำกันไว้เล็ก ๆ น้อย ๆ ครับว่า

พรบ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นั้น สามารถฟ้องหมิ่นประมาทเอาผิดแก่ผู้ที่แชร์หรือโพสต์ข้อความที่ทำให้เกิดความเสียหายด้วยการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเช่น การโพสต์หรือแชร์รูปภาพและข้อความที่มีผลกระทบด้านลบต่อบุคคลที่อยู่ในภาพได้นะครับ

#checkintime #airline #boarding #delay #flight