top of page

Night Landing

  • Captain Sopon P.
  • 13 ธ.ค. 2560
  • ยาว 1 นาที

การบินลงสนามเวลากลางคืนของเครื่องบินโดยสารนั้นมีข้อกำหนดอยู่หลายอย่าง

Airlines หรือ เที่ยวบินโดยสารนั้นปกติแล้วจะทำการบินด้วย IFR หรือ Instrument Flight Rule แทบจะตลอดเวลา IFR นั้นหมายถึงการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน ซึ่งไว้วันหลังผมจะค่อยอธิบายกันอีกทีเกี่ยวกับ IFR

ถึงแม้การบินด้วย IFR จะใช้เครื่องวัดประกอบการบินเป็นหลักก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การบินจะไม่ได้ใช้การรับรู้ภายนอกด้วยสายตาไปอย่างสิ้นเชิง

การมองเห็นลักษณะและองค์ประกอบอื่น ๆ ภายนอกยังคงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอยู่ดีครับ

อย่างเช่น การจะลงสนามนักบินยังคงต้องใช้ประสาทการรับรู้ทางสายตาจากลักษณะกายภาพภายนอกเครื่องบินอยู่

และในเวลากลางวันกับเวลากลางคืนข้อกำหนดจะมีรายละเอียดที่ต่างกันออกไปเล็กน้อย

ยกตัวอย่างให้เข้าใจกันง่าย ๆ ก็คือ ในเวลากลางวันนั้น

เราสามารถมองเห็นขอบฟ้าหรือสิ่งเทียมขอบฟ้าได้ชัดเจนว่า เครื่องบินของเรานั้นเอียงอยู่หรือบินตรงๆ ไม่เอียงซ้ายเอียงขวา การลงสนามในเวลากลางวันย่อมเห็นอะไร ๆ ชัดเจนกว่าตอนกลางคืน และสามารถประเมินระยะทางหรือระยะห่างได้ประมาณหนึ่ง

แต่บางโอกาสแม้จะเป็นตอนกลางวันเราก็ไม่สามารถที่จะประเมินลักษณะท่าทางของเครื่องบินได้

อาทิเช่น เวลามีหมอกหนา หรือ ฝนตกหนัก ๆ

การลงสนามในสภาพที่ทัศนวิสัยมีข้อจำกัด จึงเป็นสิ่งที่นักบินต้องทำการฝึกฝนให้มีความชำนาญในการที่จะหา visual cue หรือ visual reference เพื่อที่จะรู้ท่าทางของเครื่องบินว่าอยู่ในลักษณะใด

อันนี้เป็นสาเหตุหนึ่งของการที่จะต้องมีการกำหนดทัศนวิสัยขั้นต่ำ หรือ minimum visibility สำหรับการลงสนามในแต่ละวิธี เพื่อที่จะให้มั่นใจได้ว่านักบินสามารถทำการลงสนามได้อย่างปลอดภัย

จะเห็นว่า minimum visibility นั้นจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวิธีในการทำการลงสนาม (Type of approach)

แต่ type of approach หนึ่ง ๆ ไม่ได้กำหนด minimum visibility แตกต่างกันระหว่างการลงสนามเวลากลางวันหรือกลางคืน

แต่ตอนกลางคืนนั้นการมองเห็นภายนอกไม่เหมือนเวลากลางวัน

ตรงนี้เป็นข้อจำกัดทางกายภาพของมนุษย์

ระบบไฟบริเวณรันเวย์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในเวลากลางคืน

นอกจากเพื่อบอกให้นักบินรู้ว่า ตรงไหนคือรันเวย์ แล้ว ยังเป็นการเพิ่มการมองเห็นสนามบินให้เหมือนกับเวลากลางวัน

แต่ตอนกลางคืนเราไม่สามารถมองเห็นขอบฟ้า

ถามว่าจำเป็นไหม ที่ต้องเห็นขอบฟ้าตลอดเวลา

คำตอบคือ อาจจะไม่จำเป็นในบางกรณี

แต่จำเป็นที่นักบินจะต้องสามารถที่จะประเมินด้วยสายตาได้ว่า เครื่องบินนั้น ปีกเอียงหรือไม่ หรือเอียงขนาดไหน

กรอบสี่เหลี่ยมของไฟที่เป็นขอบรันเวย์ (runway edge light) จึงจำเป็นต้องมีครบถ้วน เพื่อที่นักบินพอที่จะประเมินแนวระนาบได้ว่า ปีกเอียงหรือปีกระดับ

แต่ความมืด ทำให้การกะระยะทางสัมพัทธ์กับความสูง ไม่มีความแน่นอนหรือไม่สามารถทำได้

สนามบินจึงต้องทำการติดตั้งระบบที่เป็นมุมอ้างอิงให้แก่นักบินขึ้น เราเรียกมันว่า Visual Slope Indicator

visual slope indicator นั้นมีไว้เพื่อที่นักบินจะสามารถรู้มุมร่อนที่ถูกต้องในการลดระดับความสูงลงสู่สนามบิน

Visual Slope Indicator นั้น มีหลายรูปแบบ อาทิเช่น

PAPI (Precision Approach Path Indicator) ไฟขาว-แดง 4 ดวงที่เปลี่ยนสีไปตามมุมก้มเงยที่เทียบกับระยะทาง (ดูในวีดีโอ นาทีที่ 7:52 ด้านซ้ายจะเป็นไฟ PAPI เป็นสีแดง 2 ดวง และสีขาว 2 ดวง แสดงว่ามุมร่อนเข้ามาปกติ ถ้า 3 แดงหมายความว่า บินเข้ามาด้วยความสูงต่ำกว่าที่ควร)

และ Glideslope signal ที่เป็นสัญญาณไฟฟ้า สำหรับการลงสนามแบบ ILS (Instrument Landing System) เป็นต้น

Night Landing นั้นจำเป็นจะต้องมีระบบไฟที่เป็นขอบรันเวย์ (runway edge light) และ Visual Slope Indicator

หากมีไม่ครบ 2 อย่างที่กล่าวมา ถือว่า ไม่สามารถใช้รันเวย์นั้นในการลงสนามได้ --------------------------------

💥💥หนังสือ A Pilot ✈️ ✅ขายออนไลน์เท่านั้น ✅ แอดไลน์นี้ครับ https://line.me/R/ti/p/%40a-pilot

ดูรายละเอียดได้จาก SHOP https://www.apilot.club/shop

ความคิดเห็น


bottom of page