top of page

อุปกรณ์ที่สำคัญกับชีวิต

  • Captain Sopon P.
  • 12 ม.ค. 2561
  • ยาว 1 นาที

อุปกรณ์ที่สำคัญกับชีวิต

ผมเขียนบทความในคอลัมภ์ “Captain Speaking” มาหลายฉบับพอสมควร ทุก ๆ บทความที่ต้องการสื่อสารกับผู้โดยสารของนกแอร์คือ การต้องการถ่ายทอดเกร็ดความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเดินทางโดยเครื่องบิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้โดยสารทุกท่านได้มีความสะดวกสบายในการเดินทาง และที่สำคัญที่สุดคือ เดินทางถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ

ถึงแม้ว่าการเดินทางโดยเครื่องบินนั้นจะเป็นการเดินทางที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลก แต่หากผู้โดยสารไม่มีความเข้าใจถึงที่มาที่ไปเวลาที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ในระหว่างทำการบิน ก็อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกว่า กำลังไม่ปลอดภัยหรือเปล่า ซึ่งความรู้สึกนี้แหละครับที่ทำให้เราเกิดความกลัว แต่หากเรามีความเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น เราก็จะสามารถปฏิบัติหรือให้ความร่วมมือในการปฏิบัติ รวมทั้งสามารถป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยตนเองได้อีกด้วย

ผมเขียนหัวเรื่องของบทความนี้เอาไว้ว่า “อุปกรณ์ที่สำคัญกับชีวิต” เพื่อที่จะถือโอกาสอธิบายให้ผู้โดยสารได้รับความเข้าใจกับอุปกรณ์หลาย ๆ ชนิดภายในห้องโดยสาร ที่สามารถช่วยชีวิตเราได้ หากเกิดเหตุไม่คาดคิดอย่างกระทันหัน

อุปกรณ์แรกคือ เข็มขัดนิรภัยหรือ Safety Belt ที่มีติดตั้งอยู่ทุกที่นั่ง เข็มขัดนิรภัยนั้น ผมเคยเขียนแนะนำไปในฉบับก่อน ๆ นี้แล้วว่า เมื่อไหร่ที่นั่งอยู่กับที่นั่ง ขอให้คาดเข็มขัดเอาไว้เสมอ เพราะเราไม่รู้หรอกครับว่า เครื่องบินอาจจะตกหลุมอากาศแบบฉับพลันขึ้นเมื่อไหร่ โดยเฉพาะสภาพอากาศแปรปรวนในหน้าฝนที่กำลังจะเปลี่ยนฤดูไปเป็นฤดูหนาวในปลายเดือนตุลาคม ลักษณะของสภาพอากาศอาจจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและรุนแรง รวมทั้งอาจเกินกว่าที่นักบินและเรดาห์ตรวจอากาศจะสามารถพยากรณ์ได้ ปลอดภัยไว้ก่อน คือ คาดเข็มขัดเอาไว้ครับ

ที่สำคัญคือ ให้ลองปลดและใส่เข็มขัดดูด้วยนะครับ การปลดเข็มขัดนิรภัยนั้น จะใช้วิธีดึงง้างออกเพื่อปลด จะไม่เหมือนกับเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ครับ สำหรับผู้โดยสารที่เพิ่งเคยขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ควรสร้างความคุ้นเคยกับการใช้งานครับ เพราะว่าหากมีความจำเป็นต้องรีบออกจากเครื่องบินเราจะได้ทำได้โดยไม่ชักช้าครับ

อุปกรณ์ที่สำคัญอีกอันหนึ่งที่ผู้โดยสารคงไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ใช้งานในการเดินทางปกตินะครับ แต่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิตอย่างมากหากมีภาวะฉุกเฉินเกี่ยวกับระบบปรับความดันอากาศภายในห้องโดยสาร

อุปกรณ์ชนิดนี้จะหล่นลงมาจากเพดานเครื่องบินครับ

หน้ากากออกซิเจน หรือ Passenger Oxygen Mask นั้นจะมีบรรจุอยู่ในช่องเก็บบนเพดานเหนือศรีษะเราครับ และจะมีอยู่เกินกว่าจำนวนที่นั่งด้วยนะครับ เพราะบางครั้งผู้โดยสารเดินทางพร้อมกับลูก ๆ โดยเฉพาะทารกที่ต้องนั่งบนตักหรืออุ้มกอดไว้โดยคุณพ่อคุณแม่

ยิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีสายการบินหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติเกี่ยวกับระบบปรับความดันอากาศแล้วมีหน้ากากออกซิเจนหล่นลงมา ผมเห็นและอ่านจากภาพข่าวปรากฏว่า ผู้โดยสารใช้หน้ากากออกซิเจนไม่ถูกวิธี รวมทั้งมีการร้องเรียนว่าหน้ากากออกซิเจนใช้งานไม่ได้ วันนี้ผมจึงอยากขอเขียนเรื่องการใช้งานหน้ากากออกซิเจนให้ละเอียดสักหน่อย เพื่อที่อย่างน้อยผู้โดยสารของนกแอร์จะสามารถใช้หน้ากากออกซิเจนได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยต่อชีวิตของตนเองครับในช่องเก็บเอกสารในพนักเก้าอี้ที่ด้านหน้าที่นั่งของผู้โดยสารทุกคนจะมีแผ่นพับที่ใช้อธิบายถึงการใช้งานหน้ากากออกซิเจนอยู่แล้วนะครับ เราเรียกมันว่า Safety Card และก่อนเดินทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็จะทำการสาธิตการใช้งานก่อนที่เครื่องบินจะวิ่งขึ้นในทุก ๆ ครั้งครับ คำแนะนำของแอร์โฮสเตสนั้นค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว แต่ผู้โดยสารบางท่านอาจไม่ได้สนใจหรือไม่มีสมาธิที่จะฟังเท่าไหร่นัก (ใครไม่ได้ฟังหรือดูการสาธิตบ้าง เที่ยวหน้าต้องตั้งใจดูและฟังนะครับ) ผมจึงขอเอามาเขียนอธิบายให้เข้าใจที่มาที่ไปของการสาธิตดังนี้ครับ

หน้ากากออกซิเจนนั้น ก่อนจะสวม ให้ออกแรงกระตุกหน้ากากลงมาเล็กน้อย เพื่อที่อุปกรณ์ผลิตออกซิเจนจะได้เริ่มทำการผลิตออกซิเจนครับ สำหรับเครื่องบิน B737-800 ของสายการบินนกแอร์นั้น หน้ากากแต่ละอันจะมีอุปกรณ์ผลิดออกซิเจนของใครของมันครับ เราเรียกมันว่า Oxygen cylinder การกระตุกหน้ากากลงมาเล็กน้อยก็เพื่อที่จะทำให้ safety pin ของอุปกรณ์ ที่เป็นเหมือนสลักป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ทำงานนั้นหลุดออก และอุปกรณ์ก็จะเริ่มกระบวนการผลิดออกซิเจนออกมาให้เราในทันทีครับ

เมื่อกระตุกแล้วจึงค่อยสวมทั้งปากและจมูก เน้นว่าทั้งปากและจมูกครับ แล้วให้หายใจปกติ ไม่จำเป็นต้องพยายามสูดแรง ๆ แต่อย่างใดครับ เพราะออกซิเจนจะถูกผลิตออกมาในอัตราที่เพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอนครับ

เมื่ออุปกรณ์ผลิตออกซิเจนถูกกระตุกให้ใช้งานแล้ว มันจะผลิตออกซิเจนออกมาให้ตลอดเวลาประมาณ 12 นาที

เวลา 12 นาทีนั้นมากเพียงพอที่นักบินจะจัดการให้เครื่องบินกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยไม่ต้องใช้หน้ากากออกซิเจนแล้วครับ

ซึ่งโดยปกติแล้วนักบินจะใช้เวลาในการจัดการเกี่ยวกับการลดเพดานบินฉุกเฉินกรณีเกิดการสูญเสียระบบความดันอากาศเพียงประมาณ 5-7 นาทีเท่านั้นครับอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าวิธีการใช้งานก็คือ

การใส่หน้ากากออกซิเจน จะต้องใส่ให้กับตัวเองก่อนเสมอ เพื่อที่เราจะได้มีสติและสามารถช่วยใส่ให้กับลูกหรือเด็กที่นั่งอยู่กับเราได้ครับ

หากเรามัวแต่ใส่ให้ลูกยิ่งโดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ พอเราจะใส่ให้ตัวเองถึงเวลานั้นเราอาจจะหมดสติไปเสียก่อนเพราะขาดออกซิเจนครับ ทีนี้ลูกก็ไม่สามารถจะมาช่วยเหลือเราได้จริงไหมครับ

และสุดท้ายคือ เมื่อเห็นหน้ากากออกซิเจนหล่นลงมา ขอให้หยิบใส่ทันทีห้ามรีรอเด็ดขาดครับ

เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญต่อชีวิตของเราในกรณีฉุกเฉินครับ ไม่มีใครอยากใช้มัน แต่หากถึงเวลาจำเป็นจะต้องใช้ให้เป็นและใช้ให้ถูกวิธีนะครับ

www.apilot.club

--------------------------------

✈️ A Pilot Club ✈️ไม่พลาดข่าวสารจาก A Pilot Club

กด See First ไว้ครับ

💥💥หนังสือ A Pilot ✈️

✅ขายออนไลน์เท่านั้น ✅

สำหรับหนังสือเล่มจริง (Hard Copy)

ติดต่อสั่งหนังสือได้ทาง LINE Official

กดลิ้งค์ด้านล่างนี้เพื่อแอดไลน์

https://line.me/R/ti/p/%40a-pilot


Comments


bottom of page