Cabin Baggage Storage
- Captain Sopon P.
- 10 ก.พ. 2561
- ยาว 1 นาที
เรื่องเกิดที่สิงค์โปร์ครับ
ผู้โดยสารชายท่านหนึ่งต้องการให้พนักงานต้อนรับช่วยยกกระเป๋าใส่ที่เก็บให้
แต่ถูกพนักงานต้อนรับปฏิเสธ ก็เลยไม่พอใจและให้เรียกหัวหน้าพนักงานต้อนรับมา
มีการพูดกันเป็นภาษาจีนในคลิปวีดีโอ แปลความได้ว่า (ไม่ได้แปลเอง อ่านจากข่าวครับ)
หัวหน้าพนักงานต้อนรับก็ยินดีจะช่วยถือกระบอกน้ำที่ถืออยู่ให้เพื่อที่ผู้โดยสารจะได้นำกระเป๋าขึ้นไปเก็บได้สะดวก แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะให้พนักงานเป็นคนเก็บกระเป๋า และโวยวายไม่พอใจ
สุดท้ายหัวหน้าพนักงานต้อนรับต้องพูดว่า จะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมายกเก็บให้ล่ะกัน ผู้โดยสารท่านนั้นจึงยอมเก็บเอง
เคสนี้ถ้าผู้โดยสารยังดื้อดึงผมรับประกันได้เลย 1000 % ว่ากัปตันจะสั่ง offload
เรื่องนี้ขอนำมาวิเคราะห์เพื่อเป็นการเผยแพร่ให้ทุก ๆ คนเกิดความเข้าใจร่วมกันในเวลาเดินทางโดยเครื่องบินตามนี้ครับ
ของที่ผู้โดยสารนำมานั้น ลูกเรือไม่ทราบว่า มีอะไรอยู่ในกระเป๋าบ้าง ถ้าเป็นของแตกหักง่าย หากการนำขึ้นไปเก็บแล้วเกิดความชำรุดเสียหาย เพราะไม่ทันระวัง หรือกระเป๋าปิดไม่เรียบร้อยระหว่างยกของตกหล่นลงมาแตกหัก ก็จะเป็นเรื่อง
กระเป๋าของผู้โดยสารนั้น ผู้โดยสารสามารถยกขึ้นรถ ยกลงรถ เดินทางมาจากบ้านและลากมันมาจนถึงเครื่องบินได้ ก็สมควรที่จะนำขึ้นเก็บในช่องเก็บสัมภาระได้จริงไหมครับ
ยกเว้นผู้โดยสารที่มีอาการบาดเจ็บ เจ็บป่วย หรือเป็นผู้ที่พิการแบบนี้พนักงานต้อนรับจะช่วยดำเนินการให้อย่างแน่นอนครับ
สมมติว่าผู้โดยสาร 180 คน ทุกคนต้องการให้ลูกเรือยกกระเป๋าเพื่อเก็บในช่องเก็บสัมภาระ ถ้าบนเครื่องบินอย่าง B737 จะมีลูกเรือ 4 คน ถ้าลูกเรือวันนั้นมีตารางบิน 4 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 180 คนทุกเที่ยว และมีกระเป๋าคนละหนึ่งใบ ก็เท่ากับ วันนั้นลูกเรือแต่ละคน จะต้องยกกระเป๋า 180 ใบ (อยู่บ้านว่าง ๆ ลองยกกระเป๋า 180 ครั้งเก็บเหนือตู้เสื้อผ้าดูครับ)
ข้อสุดท้ายนี้เป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือ ประสิทธิภาพในการทำงานที่เป็นหัวใจของหน้าที่ลูกเรือจะหายไป
ถ้าต้องใช้แรงงานเยอะขนาดนี้ทุกเที่ยวบิน ร่างกายก็จะอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าซึ่งเป็นผลให้ประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ดูแลเรื่องมาตรการความปลอดภัยภายในห้องโดยสาร (Cabin Safety) เสียไป
การทำหน้าที่ตรวจสอบตรวจตราระหว่างการบินจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
และหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นระหว่างเที่ยวบินขึ้นมาจริง ๆ ก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะความเหนื่อยล้าสะสมนั่นเอง

ที่เมืองไทยเองก็เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ อยู่เนือง ๆ ครับ ก็อยากให้แชร์ ๆ กันออกไปให้ได้เข้าใจกันมาก ๆ ว่า
ไม่ใช่พนักงานต้อนรับจะไม่มีน้ำใจ หรือห่วงสุขภาพตัวเองไม่ยอมช่วยยกให้
แต่พวกเขามีหน้าที่สำคัญอื่นครับ ทุกคนต้องเก็บแรงเอาไว้เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ข้างหน้าอยู่เสมอ อาทิเช่น การอพยพและช่วยเหลือผู้โดยสารที่จะตกอยู่ในอันตราย หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เป็นต้น
งานยกกระเป๋า ขอให้เป็นหน้าที่ของผู้โดยสารทุกคนต้องยกกันเองนะครับ
อ่านข่าวเต็มที่นี่
https://mothership.sg/2018/02/scoot-baggage-stewardess-refuse-help/ -------------------------------- ✈️ A Pilot Club ✈️ ไม่พลาดข่าวสารจาก A Pilot Club แอดไลน์นี้ครับ https://line.me/R/ti/p/%40a-pilot 💥💥หนังสือ A Pilot ✈️ ✅ขายออนไลน์เท่านั้น ✅ สำหรับหนังสือเล่มจริง (Hard Copy) ติดต่อสั่งหนังสือได้ทาง LINE Official กดลิ้งค์ด้านล่างนี้เพื่อแอดไลน์
Comments